“เปิดม่านการเมืองพิจิตร” ผ่านเวทีสภากาแฟรัฐศาสตร์ ชวนมองอนาคตการเมืองท้องถิ่นผ่านสายตาสื่ออาวุโส

กลุ่มศึกษาการเมืองท้องถิ่น ภาคเหนือตอนล่าง และกลุ่มนิสิตรัฐศาสตร์ปีที่ 2 จัดกิจกรรมเสวนา “สภากาแฟรัฐศาสตร์” ภายใต้ประเด็น “เปิดม่านอนาคตการเมืองพิจิตร” โดยจัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ สวนเสรีภาพ อาคารคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ รวมถึงผู้ที่สนใจทั่วไป ได้ร่วมรับฟังและสนทนาอย่างใกล้ชิดกับผู้มีประสบการณ์ตรงในแวดวงการเมืองท้องถิ่นและสื่อมวลชนของจังหวัดพิจิตร โดยได้รับเกียรติจากคุณสิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำจังหวัดพิจิตร เป็นวิทยากรให้ความรู้ พร้อมด้วยผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายภาณุลักษณ์ อินทร์เฉลิม นายปัญญา จันทบาล นายมนัสชัย นิลทับ และนายภูริณัฐ ศรีจิตรานันท์ นิสิตสาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเปิดพื้นที่การเรียนรู้นอกห้องเรียน ส่งเสริมความเข้าใจต่อพลวัตทางการเมืองในระดับจังหวัด โดยเฉพาะบริบทของจังหวัดพิจิตรที่มีลักษณะเฉพาะทั้งด้านโครงสร้างอำนาจ เครือข่ายทางการเมือง และบทบาทของสื่อท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การตั้งคำถาม และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ผ่านบรรยากาศแบบไม่เป็นทางการตามแนวคิด “สภากาแฟ” ซึ่งช่วยลดช่องว่างระหว่างวิทยากรกับผู้เข้าร่วม และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

นิสิตสาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับประโยชน์ทั้งในเชิงความรู้และประสบการณ์ โดยสามารถเชื่อมโยงทฤษฎีทางการเมืองที่เรียนในห้องเรียนเข้ากับสถานการณ์จริง เห็นภาพการเมืองท้องถิ่นในมิติที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันบุคคลที่สนใจทั่วไปก็จะได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อทิศทางอนาคตการเมืองพิจิตร บทบาทของผู้เล่นทางการเมือง และอิทธิพลของสื่อมวลชนต่อการรับรู้ของสังคม ซึ่งล้วนเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยเสริมสร้างความเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้และมีวิจารณญาณ

องค์ความรู้และประสบการณ์จากการเสวนาครั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในการเรียนและการทำงานในอนาคต ผู้เรียนสามารถใช้เป็นกรณีศึกษาในการวิเคราะห์นโยบาย การเมืองท้องถิ่น หรือการบริหารภาครัฐ ส่วนในด้านการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการปกครอง การเมือง การสื่อสารมวลชน หรือการพัฒนาชุมชน ความเข้าใจบริบทพื้นที่ การรับฟังมุมมองที่หลากหลาย และการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน จะเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมมากยิ่งขึ้น