“ม.พะเยา–ม.นเรศวร ร่วมทำกิจกรรมคู่เทียบหลักสูตร พัฒนาหลักสูตรพัฒนาสังคมสู่มาตรฐานใหม่”
เมื่อวันที่ วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00–12.00 น. ที่ผ่านมา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้การต้อนรับคณาจารย์จากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ในโอกาสเดินทางมาร่วมดำเนินกิจกรรมคู่เทียบหลักสูตร (Curriculum Benchmarking) ร่วมกับภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาคุณภาพหลักสูตรอย่างรอบด้าน โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ 1 ชั้น 2 อาคารคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก
การหารือครั้งนี้นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา และรองศาสตราจารย์ ดร.พิษนุ อภิสมาจารโยธิน รักษาการในตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์เพื่อสังคม และหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา พร้อมด้วยคณาจารย์ประจำภาควิชา ซึ่งร่วมต้อนรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้บริหารและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยพะเยา
กิจกรรมคู่เทียบหลักสูตรในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบโครงสร้างหลักสูตร แนวทางการจัดรายวิชา การกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ (PLOs) และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของทั้งสองมหาวิทยาลัย เพื่อค้นหาแนวปฏิบัติที่ดีและจุดเด่นที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหลักสูตรพัฒนาสังคมให้มีคุณภาพสูงขึ้นและเทียบเคียงกับมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการทักษะในสังคมยุคศตวรรษที่ 21 รวมถึงแนวคิดใหม่ด้านสมรรถนะบัณฑิต การบูรณาการการเรียนรู้เชิงพื้นที่ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมประสบการณ์ผู้เรียน
การแลกเปลี่ยนดังกล่าวนำมาซึ่งประโยชน์ร่วมกันอย่างยิ่ง ไม่เพียงช่วยเปิดมุมมองใหม่ทางวิชาการ แต่ยังช่วยสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาหลักสูตรในระยะยาว ทั้งด้านการออกแบบการเรียนรู้ การวิจัยร่วม และการสร้างเครือข่ายคณาจารย์ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยพะเยาสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการคู่เทียบหลักสูตรครั้งนี้ไปใช้เพื่อยกระดับหลักสูตรพัฒนาสังคมของตนเอง ทั้งในด้านการกำหนด PLOs ที่ตอบโจทย์สังคม การพัฒนารูปแบบ Active Learning และ Community-based Learning การสร้างระบบประกันคุณภาพหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและตลาดแรงงานสมัยใหม่
จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองมหาวิทยาลัย พร้อมเป็นพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรและผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต






















