ใต้ร่มราชพฤกษ์:
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมมหาราช 1 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวร (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภิสา ไวฑูรเกียรติ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีแด่ รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ และศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ประจันบาน คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ

ซึ่งทั้งสามท่านนับเป็นบุคลากรผู้ทรงคุณูปการที่มีผลงานโดดเด่นและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยนเรศวรและสังคมไทย ดังนี้
รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ มีบทบาทสำคัญในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ โดยได้ผลักดันการพัฒนาหลักสูตรและระบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สนับสนุนการยกระดับคุณภาพการศึกษาและระบบประกันคุณภาพ ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงบูรณาการที่ตอบโจทย์ปัญหาของสังคมและประเทศชาติ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งในและต่างประเทศ เสริมสร้างบทบาทของมหาวิทยาลัยในเวทีสังคม ตลอดจนผลักดันโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์และกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับชุมชนโดยรอบ อันเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ประจันบาน ในฐานะคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ได้มุ่งมั่นพัฒนาหลักสูตรทางการศึกษาและระบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเพื่อสร้างบัณฑิตครูที่มีคุณภาพและจิตวิญญาณความเป็นครูที่แท้จริง อีกทั้งยังมีผลงานวิจัยและการเผยแพร่ทางวิชาการด้านการศึกษาในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้ร่วมแสดงความยินดีและความขอบคุณต่อบุคลากรอันทรงคุณวุฒิท่านอื่น ๆ ที่เกษียณอายุราชการในปี 2568 ซึ่งทุกท่านล้วนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของมหาวิทยาลัยในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ อันเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเปี่ยมด้วยเกียรติยศ ทุกถ้อยคำแสดงความยินดีและทุกช่อดอกไม้ที่มอบให้ผู้เกษียณอายุราชการ สะท้อนถึงความเคารพ ความผูกพัน และความซาบซึ้งใจที่ชาวมหาวิทยาลัยนเรศวรมีต่อบุคลากรผู้เปรียบเสมือน “เสาหลักแห่งความรู้และการพัฒนา” ซึ่งได้สร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อสืบสานภารกิจของมหาวิทยาลัยต่อไปในอนาคต