ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการสาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ปีที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “Next Gen Well-Being: สุขภาวะแห่งเจนเนอเรชันใหม่” ขึ้นในวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 ณ บริเวณโถงกิจกรรมชั้น 1 อาคารคณะสังคมศาสตร์ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่ผสมผสานความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ และสาระความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาวะของคนรุ่นใหม่ในทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยโครงการครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่ดำเนินการโดยนิสิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม ชั้นปีที่ 3 ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ซึ่งเป็นผู้วางแผนและบริหารกิจกรรมทุกขั้นตอน ถือเป็นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ในห้องเรียนสู่การสร้างสรรค์งานจริงที่ตอบสนองสังคม

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจและเข้าถึงได้หลากหลาย เช่น การประกวด Next Gen Speech for Well-being ที่เปิดเวทีให้นิสิตได้ถ่ายทอดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับการสร้างสุขภาวะ การบรรยายพิเศษหัวข้อ “น้ำแทนน้ำตาล ทางเลือกวัยรุ่นยุคใหม่” ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการและแนวทางการเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ การประกวด Healthy Beat Cover Dance ที่ผสานจังหวะดนตรีเข้ากับการออกกำลังกาย การประกวด Well-Being Ambassador ที่ค้นหาตัวแทนคนรุ่นใหม่ซึ่งสะท้อนถึงความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และบุคลิกภาพที่ส่งเสริมสุขภาวะ ตลอดจนการจัดนิทรรศการภาพวาด “สายเส้นบำบัด” ที่ชวนผู้เข้าชมสัมผัสพลังแห่งศิลปะในการเยียวยาใจและสร้างสมาธิ

นอกจากนี้ยังมีบูธกิจกรรมที่เน้นการสร้างพลังบวกและความเพลิดเพลิน อาทิ บูธข้อความฮีลใจ ที่มอบถ้อยคำดี ๆ เพื่อสร้างรอยยิ้มและกำลังใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน และบูธ DrinkWellU ที่ชวนสนุกไปกับการทำน้ำผลไม้ DIY พร้อมฝึกการอ่านฉลากโภชนาการและการตั้งเป้าหมายการดื่มเพื่อสุขภาพที่ดี กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มสีสันให้กับบรรยากาศงาน แต่ยังสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

โครงการสาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ปีที่ 2 จึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนความคิด และการปฏิบัติจริงที่ผสมผสานทั้งสาระและความสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมจะได้รับทั้งความรู้ด้านสุขภาวะที่เหมาะกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ความมั่นใจในการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ ประสบการณ์การทำงานเป็นทีม รวมทั้งแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพของตนเองและการมีส่วนร่วมสร้างสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของนิสิตพัฒนาสังคมรุ่นใหม่ที่สามารถนำความรู้ทางวิชาการมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง